เพราะเหตุใด??? เด็กไทยอ่านหนังสือน้อยลง
สาเหตุที่เด็กไทยใช้เวลาว่างอ่านหนังสือน้อยลงเกิดจากการทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เบียดบังเวลาอ่านหนังสือ ในแต่ละวันเด็กไทยใช้เวลาดูโทรทัศน์วันละ 3-6 ชั่วโมง เล่นเกมวันละ 1-2 ชั่วโมง และพูดคุยโทรศัพท์ แชทผ่านทางมือถือวันละ 2-4 ชั่วโมง ซึ่งการใช้โทรศัพท์เป็นภัยคุกคามการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ในด้านการอ่านหนังสือและค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม ดังนั้นแนวทางการส่งเสริมให้เด็กหันมาอ่านหนังสือมากขึ้น ก็จะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อช่วงชิงเวลาการคุยโทรศัพท์เปลี่ยนมาอ่านหนังสือให้ได้ ถ้าไม่เร่งแก้ปัญหานี้ก็จะยิ่งทำให้เด็กไทยอ่านหนังสือน้อยลง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลเสียต่อตนเองและสังคมไทยในปัจจุบัน การที่มีสิ่งเร้าทำให้เด็กไทยทั่วทุกภาคของประเทศอ่านหนังสือลดลง และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ หาไม่ได้รับการแก้ไขอาจจะทำให้เด็กไม่มีนิสัยรักการอ่าน หากเปรียบเทียบกับกราฟตัวอย่างพบว่า เด็กเขตกรุงเทพมหานครยังมีนิสัยรักการอ่านเพราะมีการแข่งขันกันสูง แต่ที่น่าห่วงคือนอกเขตในจังหวัดอื่นแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางที่มีแนวโน้มการอ่านหนังสือลดลงเพราะอาจเกิดจากสาเหตุหลายประการที่ทำให้เด็กไม่ชอบอ่านหนังสือ เช่น ไม่มีการแข่งขันกันสูง พ่อและแม่ไม่มีเวลาสอนหนังสือ การที่เด็กอ่านหนังสือแค่วันละ 27-29 นาที เป็นการอ่านหนังสือที่ใช้เวลาน้อยมาก และเป็นเรื่องที่น่าตกใจ เด็กส่วนใหญ่ชอบใช้เวลาว่างในการเล่นเกม เล่นอินเตอร์เน็ต คุยโทรศัพท์ ไม่สนใจที่จะทบทวนบทเรียนหรืออ่านหนังสือ และในกลุ่มวัยทำงานก็มักจะไม่อ่านหนังสือหรืออ่านเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับงานของตนเท่านั้น สภาพปัญหาเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่าระบบการศึกษาในประเทศไทยยังไม่สามารถทำให้ผลผลิตของการศึกษากลายเป็นผลผลิตที่มองเห็นความจำเป็นของการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะเด็กคืออนาคตของชาติ เด็กไม่ฉลาดชาติก็ไม่เจริญ
-------------------------------------------------------------------------------------
2.) จากการสำรวจการอ่านหนังสือของเด็กเล็ก
(ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี) และการอ่านนอกเวลาเรียนของประชากรอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป
ปี พ.ศ. 2551
2.1) อัตราการอ่านหนังสือนอกเวลาเรียนจากผลการสำรวจ พบว่า เด็กเล็กมีอัตราการอ่านหนังสือร้อยละ 36.0 เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงมีอัตราการอ่านหนังสือใกล้เคียงกัน
(ร้อยละ 36.7 และร้อยละ 35.2ตามลำดับ) แต่อัตราการอ่านหนังสือของเด็กเล็กมีความแตกต่างกันระหว่างเขตการปกครองและภาค
โดยในเขตเทศบาลมีอัตราการอ่านหนังสือสูงกว่านอกเขตเทศบาล เด็กเล็กในกรุงเทพมหานครมีอัตราการอ่านหนังสือสูงสุด
(ร้อยละ 45.3) ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเด็กเล็กมีอัตราการอ่านหนังสือต่ำสุด
(ร้อยละ 31.3)
ตารางจำนวนและอัตราการอ่านหนังสือของเด็กเล็กนอกเวลาเรียนจำแนกตามเพศ เขตการปกครอง และภาค พ.ศ. 2551
ตารางจำนวนและอัตราการอ่านหนังสือของเด็กเล็กนอกเวลาเรียนจำแนกตามเพศ เขตการปกครอง และภาค พ.ศ. 2551
เพศ เขตการปกครอง และภาค
|
จำนวนเด็กเล็ก
(คน)
|
อัตราการอ่านหนังสือ
|
|
รวม
|
อ่านหนังสือ
|
||
ทั่วราชอาณาจักร
|
5,868,961
|
2,110,440
|
36.0
|
ชาย
|
3,026,431
|
1,110,184
|
36.7
|
หญิง
|
2,842,531
|
1,000,256
|
35.2
|
ในเขตเทศบาล
|
1,662,381
|
677,559
|
40.8
|
นอกเขตเทศบาล
|
4,206,581
|
1,432,881
|
34.1
|
กรุงเทพมหานคร
|
511,576
|
231,955
|
45.3
|
กลาง
|
1,367,749
|
442,534
|
32.4
|
เหนือ
|
892,174
|
383,233
|
43.0
|
ตะวันออกเฉียงเหนือ
|
2,125,432
|
665,108
|
31.3
|
ใต้
|
972,031
|
387,610
|
39.9
|
----------------------------------------------------------------------------------------
2.2) ความถี่ของการอ่านหนังสือนอกเวลาเรียนเด็กเล็กที่อ่านหนังสือมีทั้งสิ้น 2.1 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่อ่านหนังสือสัปดาห์ละ 2 – 3 วันมากที่สุด (ร้อยละ 39.6) รองลงมาคือ
อ่านทุกวันและอ่านสัปดาห์ละ 4 – 6 วัน ใกล้เคียงกัน (ร้อยละ 18.5และ 17.3 ตามลำดับ)
และพบว่า มีเด็กเล็กที่อ่านหนังสือแต่อ่านนาน ๆ ครั้งอยู่ ร้อยละ
14.9
แผนภูมิร้อยละของเด็กเล็กที่อ่านหนังสือนอกเวลาเรียน
จำแนกตามความถี่ของการอ่านหนังสือ พ.ศ. 2551
2.3) การอ่านหนังสือของประชากร อัตราการอ่านหนังสือนอกเวลาเรียน
นอกเวลาทำงานจากผลการสำรวจปี 2551 พบว่า คนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปมีอัตราการอ่านหนังสือร้อยละ
66.3ผู้ชายมีอัตราการอ่านหนังสือสูงกว่าผู้หญิงเล็กน้อย (ร้อยละ67.5 และ 65.1 ตามลำดับ)
และเมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจที่ผ่านมา พบว่า อัตราการอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นจากร้อยละ
61.2 ในปี 2546 เป็นร้อยละ 69.1 ในปี 2548 และลดลงเล็กน้อย คือ ร้อยละ 66.3 ในปี 2551
แผนภูมิอัตราการอ่านหนังสือนอกเวลาเรียน นอกเวลาทำงานของประชากรอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป จำแนกตามเพศ พ.ศ. 2546 – 2551
แผนภูมิอัตราการอ่านหนังสือนอกเวลาเรียน นอกเวลาทำงานของประชากรอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป จำแนกตามเพศ พ.ศ. 2546 – 2551
-------------------------------------------------------------------------
2.4) การอ่านหนังสือของประชากรอัตราการอ่านหนังสือนอกเวลาเรียน
นอกเวลาทำงานจากผลการสำรวจปี 2551 พบว่า คนไทยอายุตั้งแต่
6 ปีขึ้นไป จำนวนประมาณ 60.3 ล้านคน เป็นผู้ที่อ่านหนังสือจำนวน
40.0 ล้านคน หรือคิดเป็นอัตราการอ่านหนังสือร้อยละ 66.3 ผู้ชายมีอัตราการอ่านหนังสือสูงกว่าผู้หญิงเล็กน้อย (ร้อยละ 67.5 และ 65.1ตามลำดับ)
และเมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจที่ผ่านมาเมื่อพิจารณาอัตราการอ่านหนังสือตามเขตการปกครองและภาค
พบว่า ประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลมีอัตราการอ่านหนังสือสูงกว่านอกเขตเทศบาล(ร้อยละ 77.7 และ 61.2 ตามลำดับ)
กรุงเทพมหานครมีอัตราการอ่านหนังสือสูงที่สุดร้อยละ 85.8 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราการอ่านหนังสือต่ำสุดร้อยละ 58.2
แผนภูมิอัตราการอ่านหนังสือนอกเวลาเรียน นอกเวลาทำงานของประชากรอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป จำแนกตามเขตการปกครองและภาค
พ.ศ. 2551
-------------------------------------------------------------------------------------
2.5) เวลาเฉลี่ยที่ใช้อ่านหนังสือนอกเวลาเรียนเด็กเล็กที่อ่านหนังสือ
ใช้เวลาอ่านหนังสือนอกเวลาเรียนเฉลี่ย 27 นาทีต่อวัน เด็กชายและเด็กหญิงใช้เวลาอ่านหนังสือ
เฉลี่ยในแต่ละวันใกล้เคียงกัน(28 นาที และ 27 นาทีตามลำดับ) เมื่อพิจารณาตามพื้นที่อยู่อาศัย พบว่า
เด็กเล็กที่อาศัยในเขตเทศบาลและนอกเขตเทศบาลใช้เวลาอ่านหนังสือฯ เฉลี่ยในแต่ละวันใกล้เคียงกันเช่นกัน
(29 นาที และ 27 นาทีตามลำดับ) เด็กเล็กที่อาศัยอยู่ภาคใต้ใช้เวลาอ่านหนังสือเฉลี่ยสูงสุด คือ 30
นาทีต่อวัน แต่เด็กเล็กที่อาศัยอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้เวลาอ่านหนังสือเฉลี่ยต่ำสุด(26 นาทีต่อวัน) และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศ
แผนภูมิเวลาที่ใช้อ่านหนังสือนอกเวลาเรียนเฉลี่ยต่อวันของเด็กเล็ก
จำแนกตามเพศ เขตการปกครอง และภาค พ.ศ. 2551
------------------------------------------------------------------------------------------
ทั้งในกลุ่มผู้ทำงานและกลุ่มผู้ไม่ทำงาน
แผนภูมิอัตราการอ่านหนังสือของประชากรอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปจำแนกตามการทำงานในรอบปีที่แล้ว พ.ศ.
2551
----------------------------------------------------------------------------------------------
อ้างอิง
อ้างอิง
สวยจังเลย
ตอบลบขอบใจจ้า
ลบWow w w เสร็จแร้วว
ตอบลบเริ่สค๊าาาา
ขอบคุณ
ลบ